ฆัวกิน ซานเชส ดาวเตะที่จะกลายเป็นตำนานของสโมสร เรอัล เบติส ยกความดีความชอบในการคว้าแชมป์โคปา เดล เรย์ ได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สโมสรทำได้เมื่อปี 2005 ให้กับแฟนบอล
รักแรกที่ เรอัล เบติส การตอบแทนอย่างสุดยอดของ ฆัวกิน ซานเชส

เกมที่เอสตาดิโอ เดอ ลา คาร์ตูฆ่า ในเมืองเซบีย่าเรอัล เบติสลงเผชิญหน้ากับบาเลนเซีย เพื่อหาผู้เป็นแชมป์บอลถ้วยในฤดูกาลนี้ ก่อนที่เกมใน 120 นาทีจะจบลงด้วยผลเสมอกัน 1-1บอร์ฆ่า อิเกลเซียส โขกให้ทางโลส แบร์ดิบลังโกส เรอัลเบติสขึ้นนำตั้งแต่ต้นเกม แต่ทางฮูโก้ ดูโรมาตามตีเสมอให้เจ้าค้างคาวในช่วงครึ่งชั่วโมงของเกม ก่อนที่จะยื้อกันไปจนครบ 90 นาที และต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาทีก็ยังทำอะไรกันไม่ได้ในช่วงดวลจุดโทษเป็นทางฝั่งบาเลนเซียที่ยิงก่อน โดยผู้เล่น 3 คนแรกของทั้งสองฝั่งสามารถยิงเข้าหมด 1688games จนมาถึงคนที่ 4 ของบาเลนเซีย ยูนัส มูซ่าห์ ผู้เล่นสำรองในช่วงต่อเวลาสังหารยิงบอลไม่เข้ากรอบ คริสเตียน เตลเลสยิงเข้าให้เรอัลเบติส ขึ้นนำ แม้โฆเซ่ กาย่าจะมายิงประตูตีเสมอต่อความหวังให้ทีม แต่ฆวน มิรันด้า ก็สังหารไม่พลาด ทำให้ทีมเบติสคว้าแชมป์ได้สำเร็จ หลังจากที่เคยได้มาครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2005

“เราทำงานหนักกันมากตลอดหลายปี ต่อเติมทีละเล็กทีละน้อย สร้างทีมให้ดีขึ้น เรามีฤดูกาลที่ดีมากๆ และแฟนบอลทั้งหมดในคืนนี้ก็สมควรได้รับมัน ผมคิดว่าเราสมควรกับสิ่งที่ได้คืนนี้” ฆัวกิน ซานเชส ไอค่อนของเรอัล เบติส กล่าว“มันเต็มไปด้วยอารมณ์ที่บอกไม่ถูกในคืนนี้ ผมเห็นวันเวลาที่สร้างสรรค์เกมนี้ขึ้นมา ที่เซบีย่านี่ กับแฟนๆ ที่ตื่นเต้น ผมถึงกับกลั้นน้ำตาแห่งความยินดีไม่อยู่เลย”สำหรับฆัวกิน ซานเชส ที่เรอัล เบติส เป็นเสมือนบ้าน เมื่อเขาเป็นส่วนหนึ่งของทีมมาตั้งแต่อายุเพียง 16 ปี ในชุดอะคาเดมี่ ก่อนที่ในวัย 19 ปีจะได้ประเดิมชุดใหญ่และช่วยให้ทีมเลื่อนสู่ลา พาทีมไปเล่นยูฟ่า คัพในปีต่อมา 2002 แถมมีชื่อติดทีมชาติสเปนลุยฟุตบอลโลกที่เกาหลีใต้และญี่ปุ่น ในฤดูกาล 2004/2005 ซานเชสระเบิดฟอร์มพาทีมความแชมป์โกปา เดล เรย์ และผ่านเข้าไปเล่นแชมเปี้ยนส์ ลีกได้เป็นครั้งแรกของสโมสร

สองปีถัดมาบาเลนเซียทุ่มเงินเป็นสถิติสโมสรซื้อฆัวกิน ซานเชสไปร่วมทัพ แต่นักเตะไม่สามารถฉายแววเก่งตลอด 5 ปีกับทีมใหม่ จากนั้นก็ย้ายไปมาลาก้า และฟิออเรนติน่า ก่อนจะกลับสู่เรอัล เบติส อีกครั้งในวัย 34 ปีกับลา ลีกา ฤดูกาล 2015/16 ท่ามกลางแฟนบอล 20,000 คนที่มารอต้อนรับจนถึงตอนนี้ฆัวกิน ซานเชส ในวัยย่างเข้าปีที่ 40 ปี สามารถตอบแทนสโมสรที่เป็นเหมือนรักแรกตั้งแต่วัยเด็กได้ด้วยการคว้าโทรฟี่โกปา เดล เรย์ มาให้ทีมเรอัล เบติส อีกครั้ง ซึ่งจะเป็นสิ่งที่กลายเป็นตำนานตลอดไปของสโมสรเขียวขาวแห่งนี้อย่างแน่นอน.
ข่าวฟุตบอล ออนไลน์ที่กำลังมาแรงในตอนนี้